インバウンドでタイ人を集客! 事例多数で万全の用意 [PR]
ナムジャイブログ
ブログポータルサイト「ナムジャイ.CC」 › 日本が好き › โรค Ringo-Byoo

2015年12月18日

โรค Ringo-Byoo

ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว อย่างไรเพื่อนๆ ก็ต้องระวังรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด หรือไข้เลือดออก

แต่ว่าเพื่อนๆ เคยได้ยินชื่อโรค "リンゴ病" (Ringo-Byoo) กันบ้างมัยเอ่ย คำว่า "リンゴ" (Ringo) ในภาษาญีปุ่นแปลว่า "แอ๊ปเปิ้ล" ส่วนคำว่า "病(びょう) แปลว่า โรคภัยหรือไม่สบายนั่นเอง แล้วโรคนี้มันเกี่ยวกับแอ๊ปเปิ้ลอย่างไรนั้น เรามาดูกันนะคะ


โรค Ringo-Byoo หรือโรคฟิฟธ์ ที่ในภาษาอังกฤษบางครั้งเรียกว่า Slapped-cheek disease เพราะโรคทำให้เกิดผื่นสีแดงที่แก้มทั้งสองข้าง ทำให้ดูคล้ายกับลูกแอ๊ปเปิ้ลนั่นเอง มักพบในเด็กอายุ 5-14 ปี เชื้อที่เป็นสาเหตุคือ human parvovirus B19

โรค Ringo-Byoo


โรคฟิฟธ์ ติดต่อทางการหายใจ มีระยะฟักตัวประมาณ 5-10 วัน มักไม่มีอาการนำ หรือถ้ามีก็เป็นลักษณะไข้ต่ำ ๆ หนักศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นหวัด พออาการเหล่านี้หายสนิทได้ 2-3 วันก็จะมีผื่นแดงขึ้นที่แก้มทั้งสองข้าง แก้มจะร้อน แต่ไม่เจ็บ ต่อมาจะมีผื่นขึ้นตามแขนขา ลำตัว และอาจพบที่ฝ่ามือฝ่าเท้าด้วย

โรค Ringo-Byoo


ลักษณะผื่นจะเริ่มด้วยจุดแดงเล็ก ๆ เป็นปื้น แต่ต่อมาผื่นตรงกลางจะจางไป ทำให้ดูเหมือนเป็นร่างแหหรือลายลูกไม้ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคฟิฟธ์ ผื่นจะเป็นอยู่ประมาณ 5 วันก็จะหายไป แล้วกลับเป็นซ้ำใหม่ โดยเฉพาะเมื่อถูกความเย็น อาบน้ำ ออกกำลังกายกลางแดด หรือมีความเครียด ผื่นจะเป็น ๆ หาย ๆ อยู่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ก็จะหายสนิท
อาการของโรคฟิฟธ์

โดยทั่วไปไม่พบภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ มีเพียงบางรายที่เกิดอาการข้ออักเสบหลังจากที่ผื่นหายไปแล้ว อาการข้ออักเสบมักเป็นกับข้อเล็ก ๆ เช่น นิ้วมือ ข้อมือ ข้อเท้า ข้อจะบวม ปวด ต่อมาอีกหลายสัปดาห์ มักพบในเด็กโตและผู้ใหญ่


รักษาโรคฟิฟธ์ทำอย่างไร

ถ้าลักษณะของผื่นหากไม่ชัดต้องวินิจฉัยแยกโรคจากหัดเยอรมันและผื่นแพ้ยา โดยอาศัย rubella HI antibody และประวัติการรับประทานยาเข้ามาช่วย ถ้ามีอาการปวดข้อตามมาโดยเฉพาะในเพศหญิงต้องวินิจฉัยแยกโรคจากโรค SLE ด้วย


หากเป็นโรคฟิฟธ์จริงไม่ต้องรักษา เพราะอาการน้อยมาก โรคจะหายได้เอง ยกเว้นในรายที่มีข้ออักเสบ อาจต้องใช้ยาแก้อักเสบเพื่อควบคุมอาการปวด

ในประเทศไทยนั้น พบโรคนี้หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะ แต่สำหรับในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ดูเหมือนโรคนี้จะแพร่ระบาดเป็นการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลชอง National Institute of Infectious Diseases, NIID ทำให้ทราบว่าในโรงพยาบาลกว่า 3,000 แห่ง มีผู้ป่วยเป็นโรค “Ringo-Byoo” เข้ามารับการรักษาราวๆ 2,480 คนในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 6 เดือนธ.ค.นี้


โรคเป็นโรคที่สามารถติดต่อไปยังผู้อื่นได้ แล้วมักพบในเด็กเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่จะเป็นไม่ได้ ผู้ใหญ่เองก็มีโอากสเป็นได้เช่นกัน

ถ้าเป็นคุณผู้หญิงที่มีครรภ์เป็นล่ะก็ จะมีโอกาสที่จะทำให้เด็กที่อยู่ในครรภ์เสียชีวิตได้เช่นเดียวกับโรคหัดเยอรมันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงต้องระวังไว้ให้ดีนะคะ


ตามปกติแล้ว คนที่เป็นโรค “Ringo-Byoo” มักจะเป็นกันในช่วงฤดูร้อนมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าตั้งแต่เดือน ต.ค.ของปีนี้จะมีคนเป็นเพิ่มมากขึ้นด้วย
โดยเฉพาะในแถบคิวชูและแถบโทโฮคุจะมีผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เพิ้มมากขึ้น


ทางด้านของ National Institute of Infectious Diseases, NIID ได้กล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อไม่ให้ติดโรคนี้ก็คือจะต้องหมั่นล้างมือบ่อยๆ” นั่นเอง







Posted by mod at 19:38│Comments(0)
上の画像に書かれている文字を入力して下さい
 
<ご注意>
書き込まれた内容は公開され、ブログの持ち主だけが削除できます。