› 日本が好き › 2017年01月25日
2017年01月25日
หมึก....บิน
วันนี้จะพาไปดูหมึก....บินกัน
หมึกบินญี่ปุ่น (Japanese flying squid) หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ซูรุเมะอิกะ (スルメイカ) ชื่อของมันนั้นมาจากคำว่า Sumi (墨) ที่แปลว่าน้ำหมึก กับ Mureru (群れる) ชุมนุมกัน เมื่อนำคำศัพท์สองคำมารวมกันก็จะได้คำว่า Sumimure (スミムレ / 墨・群れ) เมื่อเวลาผ่านไปก็เกิดการออกเสียงเพี้ยนจนเป็น Surume ส่วนคำว่า イカ (Ika) ก็คือปลาหมึกนั่นเอง
ปลาหมึกบินญี่ปุ่นนั้นจะถูกจับมากที่สุดในบรรดาปลาหมึกทั้งหมด แล้วในญี่ปุ่นก็นิยมรับประทานกันมากด้วย เมนูอาหารที่ทำจากซูรุเมะอิกะก็อย่างเช่น
– หมึกย่าง : นำไปย่างซอสโชยุและปรุงรสด้วยเกลือ นำไปทานกับขิง
– หมึกทรงเครื่องย่างแผ่นฟรอยด์ : นำหมึกมาหั่นเป็นชิ้นเล็กประมาณ 1 ซม. เอาไปแช่ซอสโชยุผสมเหล้าญี่ปุ่นแล้วนำมาห่อด้วยแผ่นฟรอยด์ จากนั้นนำไปอบด้วยเตาเป็นอันเสร็จ
– หมึกบินต้มเผือก : นำหมึกมาหั่นประมาณ 1 ซม. พร้อมกับปอกเผือกแล้วนำไปต้มเตรียมไว้… นำเหล้าญี่ปุ่นและมิรินลงไปต้มในหม้อให้ได้น้ำซุป หลังจากนั้นใส่เผือกและหมึกลงไปต้ม ปรุงรสตามต้องการ
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทางกรมประมงของญี่ปุ่นได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับปริมาณ “ปลาหมึกบินญี่ปุ่น” ในทะเลญี่ปุ่นประจำปี 2016 ว่าปริมาณปลาหมึกบินญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ทางมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมีประมาณ 334,000 ตัน ซึ่งมีปริมาณน้อยลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับเมื่อปีก่อนๆ แล้วปริมาณปลาหมึกบินญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในทะเลญี่ปุ่นเองก็มีปริมาณลดน้อยลงด้วย
ด้วยเหตุนี้ เมื่อปีที่แล้วปริมาณของปลาหมึกบินญี่ปุ่นที่ถูกจับในญี่ปุ่นจึงมีปริมาณที่น้อยลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ
กรมประมงได้กล่าวว่า “อุณหภูมิของน้ำทะเลจีนตะวันออกที่กล่าวกันว่าเป็นสถานที่ที่ปลาหมึกบินญี่ปุ่นวางไข่นั้นมีอุณหภูมิต่ำลง จึงเป็นสาเหตุ 1 ที่ทำให้การวางไข่นั้นยากขึ้น นอกเหนือไปจากนี้ ปลาก็ยังมีปริมาณลดน้อยลงด้วย จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมา”
แล้วที่ว่าหมึกชนิดนี้บินได้นั้น นั่นก็เพื่อหนีเอาตัวรอดจากศัตรูที่จะมากินมัน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถหนีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดเช่นโลมาและแมวน้ำได้
ขั้นตอนการบินของหมึกนั้น ขั้นแรกมันจะพับครีบหลังลง และว่ายซิกแซกไปมาพร้อมกับดูดน้ำเข้าไปในลำตัว หลังจากนั้นก็ทำการพ่นน้ำออกมาทำให้ตัวสามารถพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำได้ โดยสามารถร่อนด้วยความเร็วถึง 11 เมตรต่อวินาที ซึ่งพอๆกับความเร็วของนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกเลย นอกจากนี้ยังสามารถอยู่ในอากาศได้ประมาณ 3 วินาที และร่อนได้ไกลกว่า 30 เมตรต่อหนึ่งครั้งด้วย
หมึกบินญี่ปุ่น (Japanese flying squid) หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ซูรุเมะอิกะ (スルメイカ) ชื่อของมันนั้นมาจากคำว่า Sumi (墨) ที่แปลว่าน้ำหมึก กับ Mureru (群れる) ชุมนุมกัน เมื่อนำคำศัพท์สองคำมารวมกันก็จะได้คำว่า Sumimure (スミムレ / 墨・群れ) เมื่อเวลาผ่านไปก็เกิดการออกเสียงเพี้ยนจนเป็น Surume ส่วนคำว่า イカ (Ika) ก็คือปลาหมึกนั่นเอง
ปลาหมึกบินญี่ปุ่นนั้นจะถูกจับมากที่สุดในบรรดาปลาหมึกทั้งหมด แล้วในญี่ปุ่นก็นิยมรับประทานกันมากด้วย เมนูอาหารที่ทำจากซูรุเมะอิกะก็อย่างเช่น
– หมึกย่าง : นำไปย่างซอสโชยุและปรุงรสด้วยเกลือ นำไปทานกับขิง
– หมึกทรงเครื่องย่างแผ่นฟรอยด์ : นำหมึกมาหั่นเป็นชิ้นเล็กประมาณ 1 ซม. เอาไปแช่ซอสโชยุผสมเหล้าญี่ปุ่นแล้วนำมาห่อด้วยแผ่นฟรอยด์ จากนั้นนำไปอบด้วยเตาเป็นอันเสร็จ
– หมึกบินต้มเผือก : นำหมึกมาหั่นประมาณ 1 ซม. พร้อมกับปอกเผือกแล้วนำไปต้มเตรียมไว้… นำเหล้าญี่ปุ่นและมิรินลงไปต้มในหม้อให้ได้น้ำซุป หลังจากนั้นใส่เผือกและหมึกลงไปต้ม ปรุงรสตามต้องการ
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทางกรมประมงของญี่ปุ่นได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับปริมาณ “ปลาหมึกบินญี่ปุ่น” ในทะเลญี่ปุ่นประจำปี 2016 ว่าปริมาณปลาหมึกบินญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ทางมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมีประมาณ 334,000 ตัน ซึ่งมีปริมาณน้อยลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับเมื่อปีก่อนๆ แล้วปริมาณปลาหมึกบินญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในทะเลญี่ปุ่นเองก็มีปริมาณลดน้อยลงด้วย
ด้วยเหตุนี้ เมื่อปีที่แล้วปริมาณของปลาหมึกบินญี่ปุ่นที่ถูกจับในญี่ปุ่นจึงมีปริมาณที่น้อยลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ
กรมประมงได้กล่าวว่า “อุณหภูมิของน้ำทะเลจีนตะวันออกที่กล่าวกันว่าเป็นสถานที่ที่ปลาหมึกบินญี่ปุ่นวางไข่นั้นมีอุณหภูมิต่ำลง จึงเป็นสาเหตุ 1 ที่ทำให้การวางไข่นั้นยากขึ้น นอกเหนือไปจากนี้ ปลาก็ยังมีปริมาณลดน้อยลงด้วย จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมา”
แล้วที่ว่าหมึกชนิดนี้บินได้นั้น นั่นก็เพื่อหนีเอาตัวรอดจากศัตรูที่จะมากินมัน แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถหนีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางชนิดเช่นโลมาและแมวน้ำได้
ขั้นตอนการบินของหมึกนั้น ขั้นแรกมันจะพับครีบหลังลง และว่ายซิกแซกไปมาพร้อมกับดูดน้ำเข้าไปในลำตัว หลังจากนั้นก็ทำการพ่นน้ำออกมาทำให้ตัวสามารถพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำได้ โดยสามารถร่อนด้วยความเร็วถึง 11 เมตรต่อวินาที ซึ่งพอๆกับความเร็วของนักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกเลย นอกจากนี้ยังสามารถอยู่ในอากาศได้ประมาณ 3 วินาที และร่อนได้ไกลกว่า 30 เมตรต่อหนึ่งครั้งด้วย
Posted by mod at
16:52
│Comments(0)