インバウンドでタイ人を集客! 事例多数で万全の用意 [PR]
ナムジャイブログ
ブログポータルサイト「ナムジャイ.CC」 › 日本が好き › 2015年08月

【PR】

本広告は、一定期間更新の無いブログにのみ表示されます。
ブログ更新が行われると本広告は非表示となります。
  

Posted by namjai at

2015年08月24日

ふとん ฟูกนอน

ตอนที่ไปอยู่กับโฮสต์ แฟมิลี่ที่ญี่ปุ่น ฉันได้ไปอยู่กับครอบครัวของโคยูกิซัง ซึ่งเป็นครอบครัวที่น่ารักมาก อยู่กัน 2 สามีภรรยา ทั้ง 2 คนใจดีมากค่ะ




เขาก็จัดเตรียมห้องนอนไว้ให้ฉันได้นอน เป็นห้องแบบญี่ปุ่นค่ะ ตอนนอนก็จะต้องมีเครื่องนอน ตามธรรมเนียมทั่วไปของชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อนจะปูฟุตง (ฟูกนอน) นอนในห้องแบบญี่ปุ่น พอตกกลางคืนห้องแบบญี่ปุ่นจึงกลายเป็นห้องนอนทันที เลยได้โอกาสได้สัมผัสการใช้ชีวิตแบบญีปุ่นจริงๆ ค่ะ ฟุตงที่ฉันนอนนั้นเป็นฟุตงพับ 3 ตอน แล้วปูผ้าปูที่นอนทับนุ่มสบาย ทำให้หลับสบายตลอดคืนเลย



ตอนยังไม่ปูฟุตง จะเป็นห้องเสื่อทาทามิธรรมดา



ปูเสร็จแล้วออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ แต่ฉันปูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไร เอาเป็นว่านอนได้ก็พอ 555 ช่างเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยจริงๆ



ตอนเช้าก็จะเก็บฟุตงให้เรียบร้อย แต่บังเอิญห้องนี้ไม่ได้ใช้ทำกิจกรรมอย่างอื่น ก็เลยเอาเครื่องนอนพับเก็บไว้ที่ปลายเท้า ตอนกลางคืนค่อยกางออกมาอีกที


  

Posted by mod at 16:28Comments(0)

2015年08月21日

8月21日の記事

ฉันเป็นอีกคนที่มีโอกาสมาเยือนเมืองฟุจิโนะมิยะ (Fujinomiya) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดชิซุโอะกะ (Shizuoka) จังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) บนเกาะฮอนชู (Honshu) เกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น




โดยตัวเมืองฟุจิโนะมิยะนั้นตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางของจังหวัดชิซุโอะกะ ในบริเวณที่ราบสูงเชิงเขาสลับเนินลูกระนาดขนาดเล็ก ตั้งอยู่ห่างจากภูเขาไฟฟุจิ ประมาณ 35 กิโลเมตร ปัจจุบันเป็นเมืองหนึ่งที่นิยมเริ่มต้นในการเดินทางปีนภูเขาไฟฟุจิ

สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองฟุจิโนะมิยะนั้น จุดหมายปลายทางของฉันคือ "น้ำตกชิระอิโตะ" (ญี่ปุ่น: Shiraito Falls 白糸の滝 Shiraito-no-taki ) น้ำตกที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และได้รับการอนุรักษ์ในฐานะอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936







ป้ายสลักหินที่ท่านโชกุนได้มาที่นี่



น้ำตกชิระอิโตะถือเป็นน้ำตกที่ศักดิ์สิทธิ์ มีศาลเจ้าอะซะมะตั้งอยู่ ในบริเวณใกล้เคียงยังมีน้ำตกโอะโตะโดะเมะซึ่งใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5 นาที





นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 1 ใน 100 น้ำตกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแห่งประเทศญี่ปุ่น ในปี 1990


น้ำตกชิระอิดตะได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกันกับภูเขาไฟฟูจิ อุทยานแห่งชาติฟุจิ-ฮะโกะเนะ-อิซุ และทะเลสาบฟูจิทั้งห้าภายใต้ชื่อ "ฟุจิซัง - สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งบันดาลใจทางศิลปะ"เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา

ทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิตอนฉันไปนั้นเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม หิมะจึงละลายเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังเป็นฟูจิซังที่สง่างดงามไม่เปลี่ยนแปลง


  

Posted by mod at 19:44Comments(0)

2015年08月21日

狛犬, Komainu

ศาลเจ้าญี่ปุ่นถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งที่ที่ได้รับความนิยม ถ้าใครได้เคยไปสักการะเยี่ยมชมศาลเจ้าต่างในประเทศญี่ปุ่น อาจจะได้เคยเห็นรูปปั้นสิงโตที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลเจ้าของลัทธิชินโตหรือทางเข้าหลัก ซึ่งเราจะเรียกรูปปั้นนี้ว่า รูปปั้นโคมะอินะ (狛犬, Komainu)




เป็นรูปปั้นสัตว์คู่ที่ลักษณะคล้ายสิงโตที่เป็นเทพพิทักษ์ ตั้งขนาบซ้ายขวาตรงหน้าทางเข้าศาลเจ้าของลัทธิชินโตเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย แต่ จริงๆแล้วไม่ใช่สิงโตแท้ๆ เพราะตามตำนานกล่าวไว้ว่าโคะมะอินุ เป็นสิ่งที่ถูกสร้างมาจาก สิงโต (狛) และสุนัข (犬) ที่เรียกกันว่า อินุ แต่มีต้นกำเนิดมาจากรูปปั้นสิงโตของจีน รูปปั้นโคมะอินุส่วนใหญ่ประกอบด้วยด้านหนึ่งเป็นรูปปั้นนั่งเปิดปาก เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเริ่มต้น ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นรูปปั้นนั่งปิดปาก เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการสิ้นสุด



ส่วนที่โอกินาว่า จะเรียกว่า “ซีซ่า” (シーサー) โดยคนโอกินาวะนิยมนำมาวางเป็นคู่บริเวณหน้าประตูหรือหลังคาบ้าน เพราะเชื่อกันว่าซีซ่าจะช่วยปกป้องบ้านหรือคนที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้นๆ ให้พ้นจากภยันตรายทั้งปวง อีกทั้งขับไล่ภูติผีปิศาจให้ห่างไกล

คำว่า “ซีซ่า” เป็นภาษาถิ่นโอกินาวะหมายถึง “สิงโต” (shishi 獅子) ส่วนรูปร่างหน้าตาก็คล้ายคลึงกับสิงโตหิน ของประเทศจีน และ “โคมะอินุ” ที่มักตั้งอยู่หน้าวัดหรือศาลเจ้าของญี่ปุ่นบนเกาะฮอนชู

แรกเริมเดิมทีชาวโอกินาวะจะวางซีซ่าแค่ตัวเดียว แต่กล่าวกันว่าเป็นเพราะได้รับอิทธิพลความเชื่อในการตั้งวาง “โคมะอินุ” ในวัดหรือศาลเจ้า หรือรูปปั้นเทพพิทักษ์ “อะอุน” (阿吽) ที่ด้านหนึ่งรูปปั้นจะต้องมีลักษณะอ้าปาก ส่วนอีกด้านหนึ่งหุบปาก ซึ่งตามความคิดเชิงศาสนาสมัยโบราณ เสียง “อะ” คือเสียงเริ่มแรกของสรรพชีวิตยามเปิดปาก ส่วนเสียง “อุน” หรือ “อึม” เป็นเสียงสุดท้ายยามหุบปากสนิท จึงเปรียบได้กับเสียงแห่งการเริ่มต้นและสิ้นสุดจักรวาล

ไม่เพียงเท่านั้น “อะ” และ “อุน” ยังมีหน้าที่กับเพศแบ่งแยกชัดเจน โดยสำหรับซีซ่าที่อ้าปากถือเป็นตัวผู้ ทำหน้าที่กวักโชคลาภเข้ามา และต้องวางไว้ด้านขวา ส่วนซีซ่าที่หุบปากคือตัวเมีย ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ภยันตรายต่างๆเข้าสู่เคหะสถาน และต้องวางไว้ด้านซ้าย อันที่จริง ประชาชนคนทั่วไปเพิ่งได้รับอนุญาตให้ตั้งวางซีซ่าไว้หน้าบ้านตัวเองในช่วงหลังสมัยเมจิ เพราะเดิมทีซีซ่าถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ที่จะต้องตั้งวางไว้หน้าประตูวัด ปราสาท สุสานขุนนาง หรือหน้าทางเข้าหมู่บ้านเท่านั้น

ภาพนี้ถ่ายตอนไปเที่ยวชมศาลเจ้าแถว Fuji San



  

Posted by mod at 17:09Comments(0)

2015年08月20日

Soft Cream Wasabi

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่ร้อนตับแตก ที่ญี่ปุ่นเองก็ร้อนตับแตกเหมือนกัน แต่ที่ญี่ปุ่นน่าอิจฉาตรงที่เขามีไอศครีมแบบ soft serve หรือที่เรียกกันว่า soft cream วางขายไว้คลายร้อน หารับประทานได้ง่าย

สำหรับรสชาติยอดนิยมที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยกันมากที่สุดก็หนีไม่พ้นรสวานิลลา มีเหรอที่ญี่ปุ่นจะมีแค่รสชาติปกติเท่านั้น ยังมีรสชาติสุดแปลกอีกมากมาย

เรามารู้จักซอฟต์ครีมกันก่อน ซอฟต์ครีม Soft Cream (ソフトクリーム) เป็นภาษาญี่ปุ่นที่สร้างคำมาจากภาษาอังกฤษ




จริงๆ แล้วซอฟต์ครีมในภาษาอังกฤษคือ “Soft Service Ice Cream” หรือเรียกสั้นๆ ว่า“Soft Serve” เริ่มเข้าไปในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1951 และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น และก็มีการคิดค้นสูตรซอฟต์ครีมสูตรต่าง ๆ มากมายจนทำให้ซอฟต์ครีมของประเทศญี่ปุ่นมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

ซอฟต์ครีมก็คือไอศกรีมชนิดหนึ่ง แต่จะมีไขมันเพียง 3-6% ซึ่งต่ำกว่าไอศกรีมที่จะมีไขมันอยู่ 10-18% และมีการผลิตที่อุณหภูมิประมาณ -4 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับไอศกรีมซึ่งเก็บไว้ในเครื่องทำความเย็นที่ -15 องศาเซลเซียส ดังนั้นซอฟต์ครีมจะมีรสสัมผัสที่นุ่มเนียนกว่าไอศกรีม

สิ่งที่แตกต่างอีกข้อหนึ่งก็คือ ซอฟต์ครีมจะใช้ตู้ปั่นไอศรีมเฉพาะที่เรียกว่า “Soft Cream Freezer” ที่จะเป็นตัวช่วยในการปรับระดับอากาศที่จะใส่เข้าไปในซอฟต์ครีม โดยเรียกว่า "Overrun" เนื่องจากปริมาณของอากาศที่ปั่นเข้าไปในซอฟต์ครีมนั้น ถ้าน้อยไปก็จะทำให้ซอฟต์ครีมที่ได้มีรสเข้มข้นเกินไป มีเกล็ดน้ำแข็งผสมทำให้เนื้อครีมไม่นุ่มเนียน แต่ถ้าปริมาณอากาศมากเกินก็จะทำให้มีฟองอากาศมากเกินไปทำให้ซอฟต์ครีมที่ได้เหลวและรสชาติที่ได้ก็จะไม่เข้มข้น และอีกหนึ่งประโยชน์ของ “Soft Cream Freezer” ก็คือทำให้เรากดซอฟต์ครีมออกมาได้อย่างสวยงามน่าทาน

* ขอบคุณข้อมูลจาก marumaru

ตอนที่ไปเที่ยวที่น้ำตก Shiroito ใกล้ๆ ฟูจิซังในจังหวัดชิซึโอกะ ได้มีโอกาสได้ชิมซอฟต์ครีมรสวาซาบิ ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่นานว่าจะลองกินรสนี้ดูมัย ก็กลัวว่ามันจะจี๊ดขึ้นจมูกเหมือนตอนกินวาซาบิจิ้มปลาดิบหรือเปล่า แต่ไหนๆ มาญี่ปุ่นแล้ว ไม่ลองไม่รู้ ก็ตัดสินใจเลือกรสวาซาบิ แต่พอทานเข้าไปก็มีกลิ่นวาซาบิอยู่นิดๆ แต่รสชาติก็ยังเป็นซอฟต์ครีมวนิลาอยู่ เอ่อ...ค่อยยังชั่วหน่อย อร่อยมากเลยค่ะ


  

Posted by mod at 21:24Comments(0)

2015年08月20日

ไปอบรมครูสอนภาษาญี่ปุ่นที่ Shizuoka International Language School



ฉันมีโอกาสได้ไปอบรมครูสอนภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียน Shizuoka International Language School ที่เมือง Fukuroi จังหวัด Shizuoka เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ตั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1989 ปีนี้ก็เข้าปีที่ 26 แล้ว นับมามีประวัติที่ยาวนานเลยทีเดียว โรงเรียนนี้มีนักเรียนต่างชาติมาเรียนมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนจากเวียดนาม 80% นักเรียนจากเมียงม่า 10% นักเรียนจากเนปาล 5 % แล้วก็จากชาติอื่นๆ อีก 5% บรรยากาศห้องเรียนของโรงเรียนนี้สนุกสนาน และอบอุ่นเป็นอย่างมาก คุณครูกับนักเรียนจะสนิทสนมกันมาก ใน 1 ชั้นเรียนจะมีนักเรียนประมาณ 15 คน ที่นี่จะเข้าเรียนเวลา 8.30 น.ถึงเวลา 12.00 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์




ช่วงบ่ายส่วนใหญ่นักเรียนก็จะไปทำงานพิเศษกัน ที่เรียกกันว่า アルバイト กัน บางคนก็ไปทำงานในโรงงานทำข้างกล่อง ร้านขายซูชิ กว่าจะกลับไปพักผ่อนก็ประมาณ 3 ทุ่มเลยทีเดียว นับว่าเป็นชีวิตที่ทั้งสนุกและลำบาก ซึ่งตอนฉันไปเรียนที่ญี่ปุ่นตอนเป็นนักเรียนก็ทำแบบนี้แหละค่ะ ตอนเช้าไปเรียน ตอนบ่ายไปทำงานพิเศษ ก็เป็นชีวิตที่เหนี่อยนะ แต่ก็สนุก

มาดูบรรยายกาศของโรงเรียนกัน

ที่นี่คือห้องเรียน สะอาดสะอ้านมากค่ะ ก่อนกลับบ้านนักเรียนต้องยกเก้าอี้เก็บบนโต๊ะให้เรียบร้อย



บริเวณทางเดินที่โรงเรียนจะตั้งถังขยะไว้ให้ทิ้งขยะ โดยจะมีถังแยกไปเลยว่า เป็นถังขยะใส่ขวดน้ำ ใส่กระป๋อง



ภาพบรรยากาศบริเวณโรงเรียนที่มองออกไปจากหน้าต่างห้องเรียน


บรรยากาศของห้องพักครู


ด้านหน้าโรงเรียนจะมีที่ไว้สำหรับจอดจักรยานของนักเรียน ในเมืองนี้ส่วนใหญ่เขาจะใช้จักรยานเป็นพาหนะกันค่ะ



บริเวณด้านนอกตัวอาคารโรงเรียน ที่ฉันใช้นั่งรอก่อนโรงเรียนจะเปิด (กลัวมาไม่ทันเลยรีบมา ยังไม่มีคนมาเปิดโรงเรียน)



  

Posted by mod at 19:43Comments(0)

2015年08月19日

8月19日の記事

เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคมมีโอกาสได้ไปอยู่ที่จังหวัดชิซึโอกะ ก็เลยมีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติของฝากขึ้นชื่อของที่นั่น ก็คือ อุนางิพาย




จะเป็นขนมที่ทำมาจากกระดูกปลาไหลกับเนื้อปลาไหลอบแห้ง แล้วก็ปั่นให้เป็นผงๆ หวานๆ กรอบๆ
ไม่มีกลิ่นของปลาไหล  มีชื่ออีกหนึ่งว่า “ ขนมสำหรับกินตอนกลางคืน “

แล้วแหล่งที่มาของอุนางิหรือปลาไหลที่แสนอร่อยนี้ก็มาจากเมืองฮามามัตสึในจังหวัดชิซึโอกะ ที่มีทะเลสาบแห่งหนึ่งชื่อว่า “ฮามานะ” และสถานที่แห่งนี้นี่เองที่มีอุนางิหรือปลาไหลน้ำจืดอยู่มากมาย คนญี่ปุ่นยกย่องให้อุนางิจากทะเลสาบฮามานะเป็นอุนางิที่มีคุณภาพดีที่สุดในญี่ปุ่นและเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญมากของเมืองนี้เพราะเป็นวัตถุดิบหลักที่ใส่อยู่ในของฝากชื่อดังของเมืองฮามามัตสึ

อุนางิพายจะเป็นขนมแท่งยาวๆบางๆ กรุบกรอบเคี้ยวเพลิน ผลิตโดยบริษัท Shunkado แรกเริ่มเดิมที่ต้องการให้เป็นของฝากที่หัวหน้าครอบครัวซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านหลังเลิกงาน เอาไว้กินเล่นในวงสนทนายามค่ำคืนสร้างช่วงเวลาดีๆให้กับครอบครัว วัตถุดิบหลักๆมี แป้ง เนยสดหอมๆ สารสกัดจากอุนางิ และกระเทียม

มีทั้งหมด 3 รสได้แก่ รสออริจินัล , รส VSOP ตัวพรีเมี่ยมที่ใส่เหล้าบรั่นดี ถั่วแมคคาเดเมีย โรยด้วยงาขาว บรรจุซองพลาสติกสีทองไฮโซสวยงามและสุดท้ายก็คือรส Almond กัดแล้วรู้สึกได้ถึงกลิ่นถั่วที่หอมชัดเจนอยู่ภายในปาก แต่สำหรับฉันแล้วชอบรสออริจินัลมากที่สุด จะว่าไปก็คล้ายๆ กับพายผีเสื้อบ้านเราเนอะ ตอนแรกก็ไม่กล้ากิน อะไรกันพายปลาไหล มันจะไหวมัย แต่พอกินเข้าไปแล้วติดใจเลย ต้องซื้อกลับมาเป็นของฝากเพื่อนๆ

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเวลาที่จะไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตอุนางิพาย อยากจะเข้าไปดูในโรงงานเห็นสายการผลิตจัง คิดว่าถ้าคราวหน้ามีโอกาสไปชิซึโอกะต้องไปเยี่ยมชมให้ได้เลย



  

Posted by mod at 19:38Comments(0)

2015年08月19日

8月19日の記事




วันนี้เราจะมาคุยกันถึงคำว่า 「B級グルメ」 “B-Kyuu gurume อาหารเกรดบี” นั้น ไม่ได้หมายถึง อาหารเลิศหรู ราคาแพง แต่หมายความถึงอาหารชั้นดีที่ขายในราคาถูกและอาหารที่คนทั่วๆไปกินในชีวิตประจำวัน และมีขายอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ช่วงหลังๆ มานี้ก็มีอาหารเกรดบีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มีหรือที่คนญีปุ่่นจะไม่จัดทำเป็นการแข่งขัน ก็เลยเกิดการจัดงาน "B-1 Grand Prix" เป็นการแข่งขันอาหารเกรดบีขึ้นมา

เสน่ห์ของอาหารเกรดบี คือ ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับอาหารหลากหลาย ที่มีวิธีทำด้วยวิธีการปรุงอาหารที่เป็นเอกลักษณ์อันมีเสน่ห์ของภูมิภาคต่างๆ ในราคาถูก ความนิยมของ B-1 Grand Prix เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะเป็นงานที่มาทีเดียวก็สามารถเลือกชิมอาหารหลากหลายได้ ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่น อย่าลืมหาโอกาสลิ้มลองรสชาติอาหารซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นกันด้วยนะคะ

สำหรับฉันเอง ตอนไปญี่ปุ่นก็มีโอกาสได้ไปลิ้มลองรสชาติอาหารเกรดบีด้วย รสชาติมันอร่อยมากๆ จนไม่น่าเรียกว่าเป็นอาหารเกรดบีเลยนะคะ อาหารเกรดบีที่ฉันไปกินก็คือ ยากิโซบะของฟูจิโนะมิยะ จากเมืองฟุจิโนะมิยะ จังหวัดชิซุโอกะ




เป็นยากิโซบะที่มีลักษณะเฉพาะตัว จนได้รับเลือกให้เป็นเมนูที่มีชื่อเสียงประจำท้องถิ่นเลย ถึงวิธีการปรุงรสจะเป็นเหมือนการทำยากิโซบะทั่วไป แต่ลักษณะเฉพาะของเมืองฟูจิโนะมิยะก็คือ การผลิตเส้นโซบะที่ใช้คนในการผลิตทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้เส้นที่เหนียวนุ่ม และเป็นเส้นยากิโซบะที่ใช้น้ำจากภูเขาไฟฟูจิเป็นส่วนผสม เส้นจึงเหนียวนุ่มลิ้น และมีลักษณะเฉพาะคือใส่กากหมูและผงซุปปลาญี่ปุ่น แถมต้องผัดด้วยกระทะเหล็ก
โดยหน้าร้านมีธงสีส้มเป็นสัญลักษณ์ตั้งอยู่ รวมถึงต้องได้รับใบประกาศรูปตะหลิวเหล็กจากสมาคมยากิโซบะด้วย







ขอบอกว่ามันอร่อยมากกินกันจนเกลี้ยงจานเลย แถมจานที่ใส่ยากิโซบะมายังเป็นรูปสัญลักษณ์ฟูจิซังอีก สุดยอดมากๆ เลย



แล้วก็ต้องขอขอบคุณ คุณ Shinmura เพื่อนที่พาไปด้วยค่ะ น่ารักและใจดีมากๆ เป็นทริปที่สนุกที่สุดอีกทริปในญี่ปุ่นค่ะ







  

Posted by mod at 15:42Comments(0)

2015年08月18日

โรงเรียนกวดวิชา




ถ้าพูดถึงโรงเรียนกวดวิชา คิดว่าหลายคนต้องเคยไปแน่นอน โรงเรียนกวดวิชาจะเป็นที่นิยมสำหรับทั้งนักเรียนและนักศึกษาไปเพื่อเรียนพิเศษกัน ซึ่งฉันเองก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คนนั้นด้วย แหมเราก็อยากจะเก่งเนอะ เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักเรียนที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย เด็กนักเรียนเหล่านี้มักจะไปสมัครเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้เก่งขึ้นนอกเหนือจากการเรียนที่โรงเรียน ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นนะคะที่นิยมไปโรงเรียนกวดวิชา แต่ญี่ปุ่นเองโรงเรียนกวดวิชาก็ได้รับความนิยมสูงมาก

เรามาดูตัวคันจิตัวนี้กัน 塾 อ่านว่า じゅく ซึ่งแปลว่าโรงเรียนกวดวิชา




ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักเรียนญี่ปุ่นจะต้องตั้งใจเรียนกันอย่างหนักเพื่อเตรียมตัวสอบเข้า ตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมัธยมปลายเพื่อให้ได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ และเข้าทำงานในบริษัทดีๆ แหมถูกสอนมาเหมือนๆ กันเลยนะคะ ให้ตั้งใจเรียน จะได้สอบเข้ามหาลัยดีๆ ได้ทำงานดีๆ

แล้วช่วงวันหยุดฤดูร้อนก็จะเป็นเวลาสำหรับการเรียนแบบเร่งรัด โรงเรียนกวดวิชาหรือโรงเรียนสอนพิเศษต่าง ๆ จะเปิดสอนภาคฤดูร้อน และมีนักเรียนเป็นจำนวนมากที่ไปเรียนที่นั่นตั้งแต่เช้าจนค่ำ คำว่า 塾 (Jyuku)(จุกุ) หมายถึง โรงเรียนสอนพิเศษสำหรับนักเรียนชั้นเล็ก ส่วนคำว่า 予備校 (Yobiko) (โยบิโค) หมายถึงโรงเรียนกวดวิชาสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย พวกนักเรียนจะพยายามท่องจำสาระสำคัญในแต่ละวิชาและศึกษาเทคนิคการเอาชนะในการสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย





แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว พวกเขาก็เรียนอย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรพิเศษในช่วงหยุดพักฤดูหนาวก่อนหน้าที่จะมีการสอบจริง นักเรียนบางคนเอาผ้ารัดศีรษะเพื่อแสดงความตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะเอาชนะการสอบให้ได้


  

Posted by mod at 19:09Comments(0)

2015年08月18日

おみくじ เซียมซี

おみくじ ใบเซียมซี

ตอนไปอยู่ญี่ปุ่นมีโอกาสได้ไปเที่ยววัด นอกจากได้ชมทิวทัศน์ของวัดที่มีศิลปะงดงามแล้ว และซึมซาบกับบรรยากาศที่เงียบสงบเหมือนวัดในไทยแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการเสี่ยงเซียมซี ปกติติ้วเซียมซีจะบรรจุอยู่ในกระบอกยาวทรงสี่เหลี่ยม แปดเหลี่ยม หรือวงกลม และเมื่อเขย่าก็จะมีไม้หล่นออกมาจากกระบอก แต่สมัยนี้เขาก็มีการพัฒนาให้เซียมซีดูน่ารักด้วย โดยพับเป็นโอริงามิ






หลังจากเสี่ยงเซียมซีแล้วเขาจะทำอย่างไร เห็นคนญี่ปุ่นมักเอาผูกไว้ที่วัด ก็เลยสงสัยว่าทำไมต้องผูกไว้ด้วย จึงถามเพื่อนคนญี่ปุ่น เขาก็อธิบายว่า ถ้าได้คำทำนายที่ไม่ดีก็จะอธิษฐานให้คำทำนายที่ร้ายกลายเป็นดี แล้วผูกใบเซียมซีนั้นไว้ด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด แล้วทำไมต้องเป็นมือข้างที่ไม่ถนัด นั่นก็เพราะว่าการผูกด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดแสดงให้เห็นถึงการทำสิ่งยากให้สำเร็จได้ ส่วนถ้าได้คำนายที่ดีก็จะนำกลับไป เพราะคำทายถือเป็นสาส์นที่ส่งมาจากเทพเจ้า ก็ควรน้อมรับไว้ด้วยความยินดี ฉันจับได้ใบเซียมซีที่มีความหมายโชคดีปานกลาง งั้นก็เลยขอน้อมรับไว้ด้วยความเต็มใจค่ะ

ส่วนเพื่อนที่เป็นคนญีปุ่นขอผูกใบเซียมซีไว้ที่วัดค่ะ






  

Posted by mod at 16:46Comments(0)

2015年08月17日

รถด่วน Romance car



เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา เราได้มีการจัด Shiro Shiro Club ครั้งที่ 14 กัน ซึ่งคลับนี้จะเป็นคลับที่ร่วมคนที่ชื่นชอบในประเทศญี่ปุ่นมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารหรือการท่องเที่ยว ซึ่งในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากบริษัท Odakyu ซึ่งเป็นบริษัทเดินรถไฟฟ้าในญี่ปุ่นมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ มาให้แนะนำเกี่ยวกับการท่องเที่ยวด้วยรถไฟด่วนของ Odakyu ที่ชื่อว่า “โรแมนซ์คาร์ ที่เป็นรถด่วนที่ให้บริการโดยเดินทางเชื่อมต่อชินจูกุกับจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของฮาโกเน่, เอะโนะชิมะและคามาคุระ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งท่านจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดได้ในแต่ละฤดูกกาลที่ผันแปรไป ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสยังสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย ถ้าใครอยากเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามต้องสำรองที่นั่งด้านหน้าหรือด้านหลังของรถด่วนโรแมนคาร์เพื่อชมวิวที่สวยงาม ด้วยที่นั่งที่นั่งสบาย ไม่ต้องแย่งกัน โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 85 นาทีเท่านั้น ซึ่งถ้าใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอื่นๆ ต้องใช้เวลาถึง 115 นาทีเลยทีเดียว





แถมบรรยากาศในการรับฟังคำแนะนำก็ยังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากมาย แถมคุณ Okutsu ยังใจดีนำขนมมาฝากพวกเราชาว Shiro Shiro Club กันด้วย ขนมอร่อยมากๆ เลย แล้วยังมีเซอร์ไพรซ์ด้วยการนำโมเดลรถด่วนโรแมนคาร์มาเป็นของที่ระลึกด้วย แต่ของดีมีน้อยแค่ 4 ชิ้นเท่านั้น ก็เลยเกิดการแย่งชิงกันเล็กน้อย แต่พวกเราก็มีวิธีการตัดสินผู้ได้รับรางวัลด้วยวิธีการแบบไทยๆ นั่นก็คือโอน้อยออกนั่นเอง สนุกสนานกันมาก แล้วก็มีผู้โชคดีได้รับกันไป 4 ท่าน








ยังไงถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมใช้บริการของบริษัท Odakyu นะคะ ฝาก facebook ของ Odakyu ไว้ด้วยนะคะ ซึ่งในเฟสจะแนะนำอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ลองค้นหาได้ที่ Odakyu.thai
  

Posted by mod at 20:23Comments(0)